วิธีการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่วิธีหนึ่ง คือการนำมันมาช่วยอ่านการขยับของเทรนด์
วิธีที่ง่ายที่สุดนั้นคือการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) เมื่อพฤติกรรมของราคาเริ่มมีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ มันจะส่งสัญญาณว่าราคานั้นอยู่ใน แนวโน้มขาขึ้น
แต่ถ้าหากพฤติกรรมของราคาเริ่มมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ มันจะบ่งบอกว่ามันอยู่ใน แนวโน้มขาลง

แต่ปัญหาสำหรับวิธีนี้นั้น คือ มันง่ายเกินไป
สมมติว่า USD/JPY นั้นอยู่ในช่วงขาลงตามตัวอย่างกราฟด้านล่าง แต่ข่าวที่รายงานออกมา ทำให้ราคาของมันพุ่งขึ้น

จากผลนั้น คุณจะเห็นว่าราคาตอนนี้นั้นอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และอาจจะคิดกับตัวเองว่า เหมือนว่าคู่ค่าเงินนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคานะ ถึงเวลาที่จะซื้อ (ฺBUY) แล้วและคุณก็ซื้อมัน เพราะคุณมั่นใจมากว่าราคา USD/JPY นั้นจะพุ่งขึ้น ก็จะทำให้ขาดทุนอย่างหนัก

อย่างที่คุณเห็น เทรดเดอร์นั้นตอบสนองกับข่าวที่ออกมา แต่เทรนด์นั้นยังคงดำเนินต่อไป และราคาก็ยังคงตกลงเรื่อยๆ
การพล็อตค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ไว้ซักสองอันบนกราฟของพวกเขา แทนที่จะพล็อตค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพียงแค่อันเดียว นี่จะทำให้คุณเห็นสัญญาณที่แน่ชัดมากขึ้นว่าคู่ค่าเงินนี้อยู่ในช่วงขาขึ้นหรือลง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลำดับของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
ในแนวโน้มขาขึ้น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เคลื่อนไหว “เร็วกว่า” ควรจะอยู่เหนือค่าที่ “ช้ากว่า” และสำหรับแนวโน้มขาลง ก็จะเป็นในทางตรงข้าม
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเรามีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อยู่ 2 ค่า: 10-period MA และ 20-period MA
เป็นกราฟคู่เงิน USD/JPY ด้านล่างดังนี้

ในช่วงขาขึ้นนั้น 10 SMA จะอยู่เหนือ 20 SMA
คุณสามารถใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มาช่วยในการแสดงให้เห็นว่าคู่ค่าเงินนี้อยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง
เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง 2 ค่ากับการเคลื่อนไหวของกราฟจะทำให้ง่ายต่อการพิจารณาว่าควรจะเทรดในรูปแบบระยะสั้นหรือระยะยาว
แน่นอนคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มากกว่า 2 ค่าขึ้นไป